7.7kviews

เที่ยวอ่าวพังงา ชมวิวเสม็ดนางชี ฉบับพรีเมี๊ยม พรีเมี่ยม 







~ ยินดีต้อนรับทุกท่านที่กำลังอ่านโพสนี้นะคะ ~
สำหรับ Review นี้ก็เป็น Reviewที่2 แล้ว วันนี้!!!! จะพาทุกคนไปชิวกับทริป !!!!




















ณ จ.พังงา เมืองเล็กๆกลางหุบเขา จะรอช้าอยู่ใย ไปชมกันดีกว่าค่าา ไปกันเลยยยย






…. ก่อนอื่นขอเกริ่นโปรแกรมสักเล็กๆ น้อยๆ ก่อนนะคะ…..
~ การเดินทางครั้งนี้จะได้นั่งพาหนะทั้งหมด 4 รูปแบบ เรียกได้ว่า ขึ้นรถ
ลงเรือ
เลยค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น
รถตู้ ที่จะรับจากที่พัก
เรือใหญ่พรีเมี่ยม
เรือหางยาว และ
เรือแคนู ค่ะ 

~ การเดินทางครั้งนี้จะได้นั่งพาหนะทั้งหมด 4 รูปแบบ เรียกได้ว่า ขึ้นรถ










….สำหรับท่าเรือที่จะเดินทางเพื่อลงเรืออยู่ที่ คลองเคียน จ.พังงา ใช้เวลาเดินทางจากภูเก็ตประมาณ 1 ชม. 15 นาที ใครที่ยังพักผ่อนไม่เต็มอิ่ม สามารถชาร์ตแบตเตอร์รี่ร่างกายได้สบายๆเลยล่ะค่ะ คนขับรถเป็นกันเอง เปิดเพลงคลอเบาๆระหว่างการเดินทาง








~ นั่งๆ นอนๆ มาสักพัก จะรู้สึกถึงรถที่นั่งมาขับขึ้นบนเนินสูงและมาจอดยังที่ที่หนึ่ง ถึงแล้นนนนนนนนนนนน 



จุดแรกสำหรับวันนี้ นั่นก็คือ จุดชมความ highlight “เสม็ดนางชี บูทิค”







จุดแรกสำหรับวันนี้ นั่นก็คือ จุดชมความ highlight “เสม็ดนางชี บูทิค”








เสม็ดนางชี บูทิค ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สามารถมองเห็นวิวอ่าวพังงาได้แบบพาโนรามา 


~ ความพิเศษของที่นี่คือสามารถตื่นมาชมวิวเสม็ดนางชีได้จากที่นอนและตอนนี้กำลังอยู่ในโครงการปรับปรุงเพื่อรองรับนักทท. อีกด้วยนะคะ ^^ 










ถ่ายวนไปสิค่ะ มาเที่ยวทั้งทีหากพลาดไป น่าเสียดายแย่เลย …. 


สำหรับเวลาที่ใช้อยู่ที่นี้เพื่อเก็บภาพความประทับใจประมาณ 20 นาที ได้สิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อย ได้ยินเสียงพี่ไกด์ดังขึ้นอีกครั้ง ไปค่ะ
ไปสถานที่ต่อไปกันเลย ล้อหมุน


ไปสถานที่ต่อไปกันเลย ล้อหมุน




และแล้วก็มาถึง คลองเคียน สเตชั่น
ท่าเทียบเรือคลองเคียนนั่นเองค่ะ จุดเปลี่ยนการเดินทางจากรถตู้ปรับอากาศ
เป็นเรือหรูลำโต







มาแล้วค่ะ พระเอกสำหรับทริปนี้……. ลำสีน้ำตาลนะคะ (เผื่อใครคิดว่าลำสีขาว)




~ ทยอยขึ้นเรือ….คนสุดท้ายของกลุ่มขึ้นเรือเรียบร้อยพี่ไกด์ไม่รีรอ แนะนำตัวอีกครั้งและบรรยายโปรแกรม ทริปนี้ถึงจะเป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ คนไทยมีน้อย แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี 




มาต่อกันที่สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ
เรือจะมี 2 ชั้น 
1 ชั้นแอร์ เย็นสบาย
2 ชั้นซีวิว เปิดโล่ง 





















การเดินทางในครั้งนี้จะไม่ทำให้คุณโมโหหิวอย่างแน่นอน มีชา กาแฟ น้ำส้มเย็น ๆ ขนมกรอบๆ ไว้คอยบริการ 






รองท้องเรียบร้อย
แชะ
แชะ กันต่อค่ะ ถ่ายได้ 10-20 รูปเบาๆ กรุ้มกริ่ม
เรือก็ล่องมาถึงจุดเปลี่ยนเรือกลางทะเล !!!!!!!!




เปลี่ยนการเดินทางจากเรือใหญ่ มาเป็นเรือหางยาวข้ามฟาก เพื่อเดินทางไปยังเขาตาปูและเขาพิงกัน (ด้านขวามือดังรูป ) เนื่องจากเรือใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้นั่นเองค่ะ 


จุดเช็คอินน์แรกบนอ่าว “เขาพิงกัน” ภูเขารูปร่างแปลกตาแตกต่างจากภูเขาอื่นใดทั้งสิ้น เป็นภูเขาสองลูกที่แนบยึดติดกัน เป็นแนวเส้นตรงจากยอดเขาสู่ตีนเขา ….

ต่อมาคือ “เขาตาปู “ แท่งหินใหญ่ขนาดมหึมาโดดเด่นปักอยู่ในทะเล เมื่อมองไป จะเห็นลักษณะคล้ายกับตะปูขนาดยักษ์ถูกตอกลึกลงไปในน้ำ 






เซลฟี่คู่ซะเลย…. 
ถ่ายรูปหนำใจ ใกล้ถึงเวลานัดหมาย กลับไปรอตรงจุดลงเรือข้ามฟากเพื่อเดินทางไปทานข้าวเที่ยงกันค่ะ

ถ่ายรูปหนำใจ ใกล้ถึงเวลานัดหมาย กลับไปรอตรงจุดลงเรือข้ามฟากเพื่อเดินทางไปทานข้าวเที่ยงกันค่ะ


แท๊แด๊มมมมมมมมมม 



และนี่คือหน้าตาอาหารบุฟเฟต์ที่จะเป็นมื้อเที่ยงของเราในวันนี้นะคะ ทานที่ชั้น 1 บรรยากาศเย็นๆ กับอาหารรสเลิศ 




Enjoy lunch 

















…….อิ่มท้องแล้ว….. ขยับร่างกาย (นั่งนิ่งๆให้staff) พายเรือแคนู
เปลี่ยนจากเรือลำโต
มาเป็นแคนู
1 ลำนั่งได้สูงสุดไม่เกิน 4 ท่าน (รวมstaff) หรือใครที่อยากโชว์ฝีมือพายเรือสามารถแจ้งขอพายเองได้เลยค่ะ Canoe by yourself 











แต่สำหรับเรานั้น…. พี่พายเถอะค่ะ หนูจะเป็นผู้โดยสารที่ดี
(แอบกระซิบ
*trick เล็กๆแนะนำนั่งหัวเรือนะคะจะได้รูปที่ดีมากๆ)





และนี่คือ ~ห้องฮันนีมูน~ เป็นห้องเล็กๆในเกาะห้อง หรือเรียกว่าห้องฮันนีมูน ซีวิว ได้เลยล่ะค่ะ
พี่ฝีพายแอบแซว หากสนใจสามารถพาขึ้นไปได้ ตอนลงง่ายนิดเดียวแค่กระโดดออกจากห้องเล่นน้ำได้เลย 



พี่ฝีพาย มือโปร เตรียมใบไม้ให้ พร้อมจัดมุมถ่ายรูปหัวใจเล็กๆ ประทับใจสุดๆ ไปเลยค่ะ 








นาฬิกาแจ้งหมดเวลา 

เรือแคนูจอดเทียบเรือใหญ่ ผู้ร่วมเดินทางทยอยเดินขึ้นเรือ ส่วนใหญ่เลือกนั่งห้องแอร์ เพราะมาจากทำกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องวิ่งเข้าสู่แอร์เย็น เย็น 









…..ในวันเดินทางอากาศดีมาก แต่คลื่นสูง
(เนื่องจากช่วงค่ำก่อนวันเดินทางฝนตก) พี่ไกด์แจ้งไม่จอดเล่นน้ำกลางทะเล เพราะคำนึงถึงสภาพอากาศและความปลอดภัย ถึงจะอดเล่นน้ำแต่ยังมีจุดต้องห้ามพลาดนั่นคือ “หัวเรือ” หลายๆท่านจะแปลงร่างเป็น super model ชัตเตอร์ ชัตเตอร์ 

















เรือลำโตล่องเข้าสู่ท่าเทียบเรืออีกครั้ง ผู้ร่วมเดินทางทยอยเดินลง ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมความประทับใจ ก่อนออกเดินทางกลับสู่จังหวัดภูเก็ตหรือจุดหมายอื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไป…….

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
สำหรับโปรแกรมระดับพรีเมี๊ยม พรีเมี่ยมแบบนี้ ราคาแค่ 1,300 บาท/ท่าน เท่านั้นค่ะ!!! แจ๋วจริงๆเลยนะ ราคาแค่เนี๊ยยย!!! 
ดูแลครบตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องที่นี้เลยจ้าาาาาาา



#Loveseatour #ทัวร์ทะเลใต้
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ See you next trip






#Loveseatour #ทัวร์ทะเลใต้

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ See you next trip
